แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฉกชิงความได้เปรียบไว้ก่อนในเกมฟุตบอลลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก แต่กว่าจะได้ประตูชัยจาก แซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ต้องรอจนช่วงท้ายเกม
ฟุตบอล ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านพบ บริสตอล ซิตี้ ม้ามืดจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เกมนี้ “เรือใบสีฟ้า” ส่งผู้เล่นชุดผสมลงสนามส่วนใหญ่ แต่ยังมี เควิน เดอ บรอยน์ , เลรอย ซาเน่ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงสนามเป็นตัวจริง
ช่วงแรกกลายเป็น บริสตอล ซิตี้ ทีมเยือนบุกหนัก นาทีที่ 16 โจ ไบรอัน ได้จังหวะหลุดเข้ามายิงแต่ติดเซฟของ เคลาดิโอ บราโว่
นาทีที่ 25 เควิน เดอ บรอยน์ ได้จังหวะยิงไกลเช่นกัน บอลไปติดเซฟของแฟร้งค์ ฟิลดิ้ง นายทวารบริสตอล ซิตี้
? Goal time for @bobbyreid93! (@jmp_uk) #MCYvBRC pic.twitter.com/e5YtVI0Kcw
— Bristol City FC (@bcfctweets) January 9, 2018
แต่นาทีที่ 44 จอห์น สโตนส์ ไปทำฟาวล์ บ็อบบี้ รีด ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษ ก่อนที่ รีด จะลุกมาสังหารเองไม่พลาด แมนฯซิตี้นำก่อนในครึ่งแรก 1-0
ครึ่งหลัง เจ้าบ้านบุกหนักหวังทำประตูตีเสมอ กระทั่งนาทีที่ 55 เดอ บรอยน์ ได้บอลขึ้นมาตรงกลางสนามก่อนฝากบอลที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ให้บอลคืนมาอีกที่ที่ เดอ บรอยน์ ยิงเข้าไป แมนฯซิตี้ ตีเสมอเป็น 1-1
นาทีที่ 87 เดอ บรอยน์ ได้โอกาสยิงอีกครั้ง คราวนี้บอลหลุดกรอบออกไป
OHHHHH, KEVIN DE BRUYNE! #cityvbcfc #mancity pic.twitter.com/0irinB6USX
— Manchester City (@ManCity) January 9, 2018
ท้ายที่สุดนาทีที่ 92 แมนฯซิตี้ ได้ประตูชัย จังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เปิดบอลให้ แซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ขึ้นโหม่งตัดหน้า ฟิลดิ้ง เข้าประตูไป จบเกม แมนฯซิตี้ เปิดบ้านชนะ 2-1 กุมความได้เปรียบก่อนไปเตะที่สนามแอชตัน เกท บ้านของบริสตอล ซิตี้ วันที่ 24 มกราคม
สถิติที่น่าสนใจหลังเกม
– เควิน เดอ บรอยน์ ลงสนาม 8 เกมหลังสุด มีส่วนร่วมกับ 9 ประตูของแมนฯซิตี้ (6 ประตู , 3 แอสซิสต์)
– แมนฯซิตี้ ผ่านเข้าชิงลีก คัพ 3 ครั้งจาก 4 หนล่าสุด หากเอาชนะได้ในเกมแรกของรอบรองชนะเลิศ