“ปีศาจแดง” ปะทะ บอร์นมัธ หวังแก้ตัวฝันร้ายเกมดาร์บี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ที่แพ้คาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เตรียมลงสนามพบ บอร์นมัธ อันดับ 14 หวังทำคะแนนไล่จี้จ่าฝูงต่อไป
สถิติของทั้งสองทีมที่เคยพบกัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 7 นัด
เสมอ 3 นัด
บอร์นมัธ ชนะ 2 นัด
ฟอร์มก่อนหน้านี้ :
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของโจเซ่ มูรินโญ่ ชนะมาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน ก่อนที่จะมาแพ้คาบ้านให้กับ แมนฯซิตี้ ซึ่งเป็นการหยุดสถิติไม่แพ้ใครในบ้านติดต่อกันเพียงแค่ 40 นัดเท่านั้น
ผลจากความพ่ายแพ้ทำให้พวกเขาตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” จ่าฝูงถึง 11 คะแนน และขณะนี้โดนเชลซี อันดับที่ 3 ไล่ทำแต้มขึ้นมาทาบที่ 35 คะแนนเท่ากัน ได้เปรียบเพียงแค่ประตูได้เสีย
เอ็ดดี้ ฮาว พาบอร์นมัธบุกเสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 เมื่อวันเสาร์ พวกเขาชนะเพียง 2 จาก 7 เกมหลังสุด แต่กลับกลายเป็นว่า 4 เกมหลังสุดทีมไม่ชนะใคร และเก็บได้เพียง 3 จาก 12 คะแนนเต็ม ขณะที่เกมเยือน “เดอะ เชอร์รี่ส์” มีผลงานแพ้ถึงครึ่งหนึ่งจากโปรแกรมแข่งทั้งหมด (4 จาก 8 นัด)
สภาพทีม :
ปอล ป็อกบา เหลือโทษแบนอีก 2 เกมที่ต้องชดใช้ ขณะที่ มาร์กอส โรโฮ ต้องรอเช็คความฟิตหลังได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะในเกมกับ แมนฯซิตี้ เช่นเดียวกับ ฟิล โจนส์ ที่รอโอกาสคืนสนาม ขณะที่ เอริค ไบญี่ แนวรับทีมชาติไอวอรี่ โคสท์ เจ็บยาวและจะพลาดลงสนามแน่นอนจนถึงปีหน้า
ด้าน โรเมลู ลูกากู ที่ฟอร์มย่ำแย่ในเกมล่าสุดน่าจะได้รับโอกาสลงสนามต่อไป โดยมี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช รอโอกาสข้างสนาม ส่วนตัวสนับสนุนด้านหน้า ยังมี อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงช่วยเช่นเคย
อีกประเด็นที่ต้องติดตามคือ เฮนริค มคิตาร์ยาน ที่ไม่ได้มีปัญหาบาดเจ็บ แต่มูรินโญ่เลือกกาชื่อทิ้งจากทีม เพื่อให้นักเตะที่ฟอร์มตกกลับไปเรียกความมั่นใจ
เอ็ดดี้ ฮาว ได้ อดัม สมิธ แนวรับที่พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง แต่ อดัม เฟเดริชี่ (เข่า) , แบรด สมิธ (แผ่นหลัง) , ไทรอน มิงส์ (สะโพก) เจ็บยาวพลาดการลงสนามแน่นอน
บอร์นมัธยังมี นาธาน อาเก้ อดีตดาวเตะเชลซีคุมแนวรับ , ขณะที่แดนกลางยังมี ลูอิส คุ้ก เป็นตัวหลัก และมี โจชัว คิง ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ รอลงสนามพบทีมเก่า
What a comeback!! 3 points and an assist ? pic.twitter.com/7gP24hFetd
— Marcus Rashford (@MarcusRashford) November 18, 2017
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา ; มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน , ฟิล โจนส์ , คริส สมอลลิ่ง , แอชลี่ย์ ยัง ; อันเดร์ เอร์เรร่า, เนมันย่า มาติช ; อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล, เจสเซ่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด ; โรเมลู ลูกากู
บอร์นมัธ (4-4-1-1) : อาสเมียร์ เบโกวิช ; อดัม สมิธ, ไซม่อน ฟรานซิส, นาธาน อาเก้, ชาร์ลี แดเนี่ยลส์ ; จอร์ดอน ไอบ์, ลูอิส คุก , แอนดรูว์ เซอร์แมน , มาร์ก พิวจ์ ; โจชัว คิง ; คัลลั่ม วิลสัน
ICYMI – Catch up on all the key points from Jose Mourinho’s press conference earlier today: https://t.co/aDxFwq2rFD pic.twitter.com/OsFytYwX1a
— Manchester United (@ManUtd) December 12, 2017
วาทะกุนซือ
โจเซ่ มูรินโญ่ (แมนฯยูไนเต็ด)
“เมื่อคุณแพ้ คุณยิ่งมีแรงกระหายที่จะเอาชนะให้ได้ ไม่มีใครอยากแพ้แม้แต่ครั้งเดียว และยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ยิ่งยอมไม่ได้ ผมเชื่อว่าทุกทีมก็คิดแบบนี้”
“นั่นหมายความว่านักเตะของเราจะเล่นเกินร้อยเพื่อแก้ตัวจากความผิดหวังที่ได้รับมา”
? Catch up on what the boss had to say ahead of this evening’s game with @ManUtd.
Watch the full press conference for FREE ➡️ https://t.co/IJOzNaxgwB#afcb ? pic.twitter.com/LSzXHDcebW
เอ็ดดี้ ฮาว (บอร์นมัธ)
“ฟอร์มในบ้านของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นผมว่าคุณควรมองข้ามเกมกับแมนฯซิตี้ไปก่อน”
“เมื่อ 7 ปีที่แล้ว พวกเรายังอยู่ในลีกทู ห่างไกลจากจุดนี้มาก แต่เกมนี้ เราจะไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมพรีเมียร์ลีก”
“นี่คือโอกาสที่เราทั้งสโมสรพยายามทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้มา ดังนั้นเราไม่มีอะไรจะเสีย”